1. คำประพันธ์ใดแสดงความเชื่อของสังคมไทย1) สายดิ่งแซมสลับต้นตับเต่า เป็นเหล่าเหล่าแลรายทั้งซ้ายขวา กระจับจอกดอกบัวบานผกา ดาษดาขาวดั่งดาวพราย 2) งิ้วนรกสิบหกองคุลีแหลม ดังขวากแซมเสี้ยมแซกแตกไสว ใครทำชู้คู่ท่านครั้นบรรลัย ก็ต้องไปปีนต้นงิ้วน่าขนพอง 3) อยู่กลางทุ่งรุ่งโรจน์สันโดษเด่น เป็นที่เล่นนาวาคงคาไหล ที่พื้นลานฐานปัทม์ถัดบันได คงคาลัยล้อมรอบเป็นขอบคัน 4) แสนวิตกอกเอ๋ยมาอ้างว้าง ในทุ่งกว้างเห็นแต่แขมแซมสลอน จนดึกดาวพราวพร่างกลางอัมพร กระเรียนร่อนร้องก้องเมื่อสองยาม
|
2. คำพูดในข้อใดประทับใจผู้ฟังน้อยที่สุด1) ขอแสดงความยินดีที่ท่านได้รับทุนไปศึกษาต่างประเทศ 2) ได้สองขั้นแล้วเมื่อไหร่จะเลี้ยงล่ะ 3) เสียใจด้วยนะเพื่อนที่ต้องสูญเสียคุณแม่ไปอย่างกะทันหัน 4) คนที่เจ้านายรักก็อย่างนี้แหละทำอะไรก็ดีไปหมด
|
3. เพลงกล่อมเด็กในข้อใดแสดงถึงความรักของแม่ที่มีต่อลูกได้ชัดเจนที่สุด1) นอนเสียเถิด ขวัญเจ้าจะเกิดในดอกบัว แม่เลี้ยงเจ้าไว้ เพื่อจะได้เป็นเพื่อนตัว 2) เนื้อเอ๋ยเนื้ออุ่นเอย เนื้อละมุนคือสำลี แม่ไม่ให้ใครต้อง แม่กลัวเจ้าจะหมองศรี 3) เนื้อเอ๋ยเนื้ออ่อนเอย ไม่หลับไม่นอนอ้อนแม่อยู่อาลัย พี่เลี้ยงนางนมอยู่ไหน ไม่มาไกวให้เจ้านอน 4) นกเขาเอ๋ย ขันตั้งแต่เช้าไปจวนเย็น ขันให้ดังแม่จะฟังเล่น เสียงเย็นๆลูกน้อยกลอยใจ
|
4. บุคคลใดรับสารด้วยการฟังได้อย่างสัมฤทธิ์ผล1) ส้มเป็นที่รักของเพื่อน แม้ว่าเพื่อนจะต่อว่าไม่พอใจเรื่องใด ส้มก็ยิ้มรับทุกอารมณ์ของเพื่อนได้เสมอ 2) สวยเป็นที่ชื่นชมของเพื่อน เพราะเพื่อนสั่งอะไรสวยก็ไม่เคยขัดข้อง จะเชื่อฟังและปฏิบัติตามเสมอ 3) ปลาไม่ค่อยมีใครสนใจ เพราะเวลาใครพูดอะไร เธอก็จะฟังอย่างตั้งใจ แต่ไม่เคยปฏิบัติสักครั้ง 4) ปุ่น ไม่ค่อยสนใจคนที่กล่าวตักเตือน เพราะรู้สึกว่าเสียเวลาและคิดเสมอว่าคนเหล่านี้คอยแต่อิจฉา
|
5. ข้อใดมีจินตภาพของความเคลื่อนไหว1) หัวลิงหมากลางลิง ต้นลางลิงแลหูลิง 2) ยูงทองย่องเยื้องย่าง รำรางชางช่างฟายหาง 3) ไก่ฟ้าอ้าสดแสง หัวสุดแดงแทงเดือยแนม 4) เลียงผาอยู่ภูเขา หนวดพรายเพราเขาแปล้ปลาย
|
ต้องการเฉลยข้อสอบ โปรดเข้าระบบสมาชิก
|
|