1. ผู้ที่กล่าวว่า กฎหมายคือข้อบังคับของรัฐซึ่งกำหนดความประพฤติของมนุษย์ ถ้าฝ่าฝืนจะได้รับผลร้ายหรือถูกลงโทษ คือ1) ดีโมสเทนเนส 2) กรมหลวงราชบุรีฯ 3) จอห์น เซลมอน 4) ดร.หยุด แสงอุทัย
|
2. ข้อใดต่อไปนี้เป็นลักษณะที่สำคัญที่สุดของกฎหมาย1) ใช้ได้เสมอไป 2) ใช้ได้ทั่วไป 3) ต้องมาจากรัฐาธิปัตย์ 4) ต้องปฏิบัติตาม
|
3. นิติกรรมที่เกิดขึ้นด้วยการแสดงเจตนาออกมาไม่ตรงกับเจตนาที่แท้จริงซึ่งซ่อนอยู่ในใจโดยคู่กรณีฝ่ายหนึ่งรู้ถึงเจตนาที่ซ่อนอยู่ในใจ มีผลในกฎหมายประการใด1) สมบูรณ์ 2) โมฆียะ 3) โมฆะ 4) ใช้บังคับมิได้
|
4. การหมั้นที่เกิดขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมายย่อม1) ไม่เป็นเหตุที่จะร้องขอให้ศาลบังคับให้สมรสได้ 2) ตกลงให้มีเบี้ยปรับได้หากไม่มีการสมรสเกิดขึ้น 3) ให้ถือว่าของหมั้นนั้นเป็นสินสมรสของชายหญิงคู่หมั้น 4) ไม่จำเป็นต้องมีของหมั้นแต่อย่างใด
|
5. นายดำอายุ 21 ปี น.ส.แดงอายุ 21 ปี ตกลงจะหมั้นกัน โดยนายดำตกลงว่าจะมอบเงินให้จำนวน 5 ล้านบาท อีกทั้งจะมอบรถยนต์ 1 คันและสร้อยคอทองคำอีก 3 เส้น ปรากฏว่าก่อนหน้าวันหมั้น 1 วัน นายดำได้นำเงินจำนวน 5 ล้านบาทมามอบไว้ให้ น.ส.แดงก่อน ครั้นถึงวันหมั้นนายดำนำรถยนต์มามอบให้น.ส.แดง ส่วนสร้อยคอทองคำ 3 เส้น นายดำมอบให้ในวันถัดจากวันหมั้น เช่นนี้ของหมั้นคือ1) เงินจำนวน 5 ล้านบาทและรถยนต์ 2) รถยนต์เท่านั้น 3) สร้อยคอทองคำ 3 เส้นเท่านั้น 4) เงินจำนวน 5 ล้านบาทเท่านั้น
|
ต้องการเฉลยข้อสอบ โปรดเข้าระบบสมาชิก
|
|