1. ข้อใดไม่ถูกต้อง1) ไล่ออก ถ้ามีเหตุผลอันควรลดหย่อนผ่อนโทษ ห้ามมิให้ลดโทษต่ำกว่าปลดออก 2) การลงโทษภาคทัณฑ์ให้ใช้เฉพาะกรณีกระทาผิดวินัยเล็กน้อยหรือมีเหตุอันควรลดหย่อน 3) กระทาความผิดเล็กน้อยและมีเหตุอันควรงดโทษ จะงดโทษให้โดยทาทัณฑ์บนเป็นหนังสือ 4) ทาผิดวินัยไม่ร้ายแรง ให้ผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษ ให้ออก หรือปลดออก
|
2. ข้อใดไม่ถูกต้อง1) ผู้ใดถูกสั่งลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน ให้มีสิทธิอุธรต่อ กคศ. ภายใน 30 วัน 2) ผู้ใดถูกสั่งลงโทษปลดออก ไล่ออก หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการ ให้มีสิทธิอุธรณ์หรือร้องทุกข์ต่อ ก.ค.ศ. ภายใน 30 วัน และให้ ก.ค.ศ. พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน 3) ผู้ใดเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้มีสิทธิอุธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ. ภายใน 30 วัน 4) กรณีที่มิได้บัญญัติให้มีสิทธิอุธรณ์หรือร้องทุกข์ได้ ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องคดีต่อศาลปกครอง
|
3. พ.ร.บ. เงินเดือน เงินวิทยาฐานะและเงินประจำตำแหน่ง ประกาศใช้บังคับเมื่อใด1) 19 ธ.ค. 47 2) 20 ธ.ค. 47 3) 23 ธ.ค. 47 4) 24 ธ.ค. 47
|
4. ในกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนหรือผู้มีอาน่าจะเห็นว่าข้าราชการครูและบุคลากร รายใดกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง สมควรลงโทษปลดออก หรือไล่ออก ข้อใดถูก1) ผ.อ.ส้ม./รอง ผ.อ. สพท. ขึ้นไป ให้เสนอ กคศ. พิจารณา 2) ผอ.สถานศึกษาหรือครูมีวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ ให้เสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่พิจารณา 3) ผู้ใดถูกกล่าวหาว่ากระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง ได้ออกจากราชการไปแล้ว ให้ผู้มีอาน่าจะสั่งยุติเรื่อง 4) ครูผู้ช่วย ทาผิดวินัยในระหว่างเตรียมความพร้อม ไม่ต้องตั้งกรรมการสอบสวน
|
5. ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติทั่วไปของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ1) มีสัญชาติไทย 2) มีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีบริบูรณ์ 3) มีความซื่อสัตย์และยุติธรรมเป็นที่ประจักษ์ 4) มีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี
|
ต้องการเฉลยข้อสอบ โปรดเข้าระบบสมาชิก
|
|