1. การตั้งคำถามแบบใดที่อาจมีการออกคำสั่งกำกับไว้ด้วย1) การตั้งคำถามเพื่อให้ได้ข้อคิดเห็น 2) การตั้งคำถามเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง 3) การตั้งคำถามเพื่อทดสอบ 4) การตั้งคำถามเพื่อให้ได้คำตอบหลากหลาย
|
2. ข้อใดไม่ได้ใช้โวหารภาพพจน์แบบอุปมาในการพรรณนา1) ก็น้ำใจของมัทรีนี้กตเวทีเป็นไม้เท้าก้าวเข้าสู่ที่ทางทดแทนอุปมาแม้นเหมือนสีดาอันภักดีต่อสามีรามบัณฑิต 2) มัทรีสัตยาสวามิภักดิ์รักผัวเพียงบิดาก็ว่าได้ ถึงจะยากเย็นเข็ญใจก็ตามกรรม 3) อกของใครจะอาภัพยับพิกลเหมือนอกของมัทรีไม่มีเนตรน่าที่จะสงสารสังเวชโปรปรานี 4) อุตสาหะตระตรากตระตรำเตร็ดเตร่หาผลาผลไม้ถึงที่ไหน จะรกเรี้ยวก็ซอกซอนอุตส่าห์เที่ยวไม่ถอยหลัง จนเนื้อหนังข่วนขาดเป็นริ้วรอย
|
3. ข้อใดเด่นในด้านการเล่นสัมผัสการซ้ำคำและซ้ำเสียงได้อย่างไพเราะให้อารมณ์สะเทือนใจ1) เสียงชะนีเหนี่ยวไม้ไห้หาละห้อยโหย พระกำลังนางก็อิดโรยพิไรร่ำร้อง 2) ดะดุ่มเดินเมิลมุ่งละเมาะไม้มองหมอบ แต่ย่างเหยียบเกรียบกรอบก็เหลียวหลัง 3) สุดฝีเท้าที่แม่จะเยื้องย่องยกย่างลงเหยียบดินก็สุดสิ้นสุดปัญญาสุดหาสุดค้นเห็นสุดคิด 4) น้ำเอ๋ยเคยมาเปี่ยมขอบเป็นไรจึงขอดข้นลงขุ่นหมองพระพายเอ่ยเคยมาพัดต้องกลีบอุบล
|
4. เหตุใดพระอินทร์จึงสั่งเทพบริวารให้จำแลงกายเป็นสัตว์ร้ายมาขวางทางพระนางมัทรี1) เพราะเกรงว่าพระเวสสันดรจะทรงทำทานบารมีไม่สำเร็จ 2) เพราะเกรงว่าพระนางมัทรีจะพบสองกุมาร 3) เพราเกรงว่าพระนางมัทรีจะขัดขวางพระเวสสันดร 4) เพราะเกรงว่าพระนางมัทรีจะไม่ได้รับอานิสงส์จากทานบารมี
|
5. ข้อใดคือการอ่านวรรณคดีที่ถูกต้อง1) อ่านเพื่อความเพลิดเพลินบันเทิงใจ 2) อ่านโดยพยายามสร้างสภาพอารมณ์ของกวีขึ้นในใจของเราเพื่อให้เข้าถึงสารที่กวีต้องการจะสื่อ 3) อ่านเพราะชอบว่าเป็นเรื่องที่กับนิสัยและชีวิตของตนเอง 4) อ่านอย่างเพ็งเล็งข้อเท็จจริงเหมือนอ่านตำรา
|
ต้องการเฉลยข้อสอบ โปรดเข้าระบบสมาชิก
|
|