1. ข้อใดแสดงแนวคิดต่างจากข้ออื่น1) ชาติตะปูชาติแข็งต้องแทงตรึง ชาติขี้ผึ้งชาติอ่อนร้อนละลาย 2) แต่ไม้ไผ่อันหนึ่งตันอันหนึ่งแขวะ สีแหยะแหยะตอกตะบันเป็นควันฉิว 3) อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก ไปมาผลักบ่อยเข้าเสายังไหว 4) เรียงอิฐติดแน่นแผ่นละครั้ง ยังเป็นวังใหญ่เยี่ยมเทียมสิงขร
|
2. ข้อใดเป็นจุดมุ่งหมายของกวีตามคำประพันธ์ต่อไปนี้ และใจเจ้าจักเป็นเช่นสายน้ำ ใสเย็นฉ่ำชื่นแล้วไหลแผ่วผ่านเพื่อเลี้ยงชีพชโลมไล้ให้เบิกบาน เพียงพ้องพานผิวแผ่วแล้วผ่านเลย1) เสนอแนวคิดในการทำจิตใจให้สงบเย็น 2) เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ 3) เสนอแนวคิดเกี่ยวกับธรรมชาติที่เป็นคุณต่อมนุษย์ 4) เสนอแนวคิดเกี่ยวกับธรรมชาติที่แปรเปลี่ยนตลอดเวลา
|
3. คำประพันธ์ต่อไปนี้กล่าวถึงศิลปะของคนไทยในด้านใด แสงโสมแสงแก้วส่อง สุริยฉายอร่ามรัตนกุณฑลพราย พร่างฟ้าอุณหิสวิจิตรราย ปัทมราช แลฤาเจ็ดอุรุดเรียบหน้า ผกเกล้าเกลื่อนหงอน1) การแต่งกาย 2) การวาดภาพ 3) การแกะสลัก 4) การก่อสร้าง
|
4. ข้อใดมีเนื้อความที่ให้กำลังใจชัดเจนที่สุด1) เริ่มต้นสร้างทางดีให้กับชีวิต จักพิชิตความทุกข์สบสุขสันต์ 2) ไม่มีแล้วแสงใดในแสงดาว จะสกาวเท่าแสงแห่งเยาวชน 3) หากชีวิตนี้คงดำรงอยู่ ต้องต่อสู้ฟันฝ่าอย่ากำสรวล 4) หยาดน้ำใจได้รับยามอับจน จึงคำล้นฝนมณีทุกสีไป
|
5. ข้อใดมีน้ำเสียงต่างจากข้ออื่น1) จากแรงมาเป็นรวง ระยะทางนั้นเหยียดยาวจากรวงเป็นเม็ดพราว ล้วนทุกข์ยากลำเค็ญเข็ญ 2) สองมือเฮามีแฮง เสียงเฮาแย้งมีคนยินสงสารอีศานสิ้น อย่าซุด, สู้ด้วยสองแขน 3) โซ่ประตูตรึงผูกถูกกระชาก เสียงแห่งความทุกข์ยากก็ยิ่งใหญ่สว่างวาบแปลบพร่ามาไรไร ก็รู้ได้ว่าทางยังพอมี 4) ลมประสานเสียงแคนว่าแค่นแค้น เปิปข้าวทุกคราวแค่นความขื่นขมเหงื่อภูรินตากูแล้งน้ำแห้งตรม แม้ทุกข์ถมจักหยัดยืนคืนค่าคน
|
ต้องการเฉลยข้อสอบ โปรดเข้าระบบสมาชิก
|
|