1. ข้อใดเป็นแนวคิดของคำประพันธ์ต่อไปนี้ "ไป่ฟังคนพูดฟุ้ง ฟั่นเฝือ เท็จและจริงจานเจือ คละเคล้า คือมีดเที่ยวกรีดเถือ ท่านทั่ว ไปนา ฟังจะพาพลอยเข้า พวกเพ้อรังควาน"1) ควรฟังผู้มีศิลปะในการพูด 2) ควรมีวิจารณญาณในการฟัง 3) ไม่ควรทำร้ายผู้อื่นด้วยคำพูด 4) ไม่ควรฟังคนที่พูดเพ้อเจ้อ
|
2. ค่านิยมในข้อใดปรากฏให้เห็นเด่นชัดที่สุดในคำประพันธ์ต่อไปนี้ ---"ด้วยเรียมรองมุลิกาเป็นข้าบาท จำนิราศร้างนุชสุดสงสาร ตามเสด็จโดยแดนแสนกันดาร นมัสการรอยบาทพระศาสดา"1) ความจงรักภักดี 2) ความกตัญญูกตเวที 3) ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ 4) ความเลื่อมใสในพระศาสนา
|
3. ข้อใดไม่สะท้อนความเชื่อของผู้พูด1) ดังหิ่งห้อยจะแข่งแสงอาทิตย์ เห็นผิดระบอบบุราณมา 2) งดอยู่อย่าเสด็จสักเจ็ดวัน ถ้าพ้นนั้นก็เห็นไม่เป็นไร 3) สุดแท้แต่บุญกับกรรม จะฟังคำโหรานั้นหาไม่ 4) ตนเป็นไทไม่ควรไปคบทาส คนต่างชาติไม่สนิทอย่าชิดชอบ
|
4. ข้อใดไม่ใช่คำพูดที่แสดงความรักศักดิ์ศรี1) จะสงครามตามตีติดพัน ไปกว่าชีวันจะบรรลัย 2) ผิดก็ทำสงครามดูตามที เคราะห์ดีก็จะได้ดังใฝ่ฝัน 3) จำจะไปต้านต่อรอฤทธิ์ ถึงม้วยมิดมิให้ใครดูหมิ่น 4) แต่ผู้เดียวจะเคี่ยวสงครามไป จะยากเย็นเป็นกระไรก็ตามที
|
5. ข้อใดเป็นการแสดงทรรศนะ1) การเรียนกวดวิชาเป็นค่านิยมที่เกิดมานานแล้ว เด็กไทยจำนวนมากรู้สึกว่าการเรียนกวดวิชาเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่ง 2) ไม่ว่าจะเกิดความวิตกกังวลหรือกลัวสักเพียงใด วันสอบจะต้องมาถึง ไม่ว่าจะพร้อมหรือไม่ก็จะต้องเข้าห้องสอบ 3) ความรู้จะเกิดขึ้นได้ต้องเกิดจากตัวนักเรียนเอง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่โรงเรียนจะต้องมีห้องสมุดที่ดีไว้คอยบริการ 4) เด็กไทยเรานั้นเรียนรู้ที่จะท่องจำแต่ไม่สามารถดัดแปลงความรู้ที่ท่องจำนั้นมาใช้กับสังคมยุคใหม่ได้
|
ต้องการเฉลยข้อสอบ โปรดเข้าระบบสมาชิก
|
|